คืนหรรษาที่ Hunters Den, Hunza Valley

หลังจากนั่งรถจาก Islamabad ร่วม 20 ชม. เราก็มาถึง HunZa Valley ในช่วงเย็นของวันที่สาม ทุกคนดูตื่นเต้นและลุ้นว่าจะทันถ่ายภาพแสงเย็นบนดาดฟ้าโรงแรมหรือเปล่า? 

สรุปเรามาช้าไปครึ่งชม. แสงดีที่สุดของเย็นนั้นลาลับก่อนเรามาไม่นาน หลังจากผิดหวังกับแสงเย็น ... ผมก็สำรวจมุมถ่ายภาพบนนั้น รู้เลยว่า นี่ไม่ใช่จุดที่ดีที่สุดที่จะถ่ายทางช้างเผือกและแสงเช้าใน HunZa Valley ด้วยมุมทางซ้ายของโรงแรมแคบเกินไปที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ และมุมด้านหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็แทบไม่มีฉากหน้าไว้รองรับทางช้างเผือก ... พิกัดลับผุดขึ้นมาในหัว "Hunters Den" ค่ำนี้ ... เราจะไปหานาย

หลังมื้ออาหารค่ำ ทุกคนยังกระปรี้กระเปร่า คงเพราะนั่งรถมานาน ได้ยืดเส้นยืดสาย กินอาหารอร่อย แถมมีวิวสวยอลังการเป็นกับแกล้ม ผมสุมหัวกับฮุสเซน Local Guide ชาวปากี สอบถามแกมขอร้อง .. I want to go Hunters Den tonight for milkyway and sunrise photography ... ฮุนเซนทำหน้างง และบอกไม่รู้จัก Hunters Den เรายิ้มอ่อน เอาไงดี อยากไปอ่ะ ... กาง Google map ให้ดูพร้อมสอบถามคนท้องถิ่น โอเคร ได้เรื่อง พอรู้พิกัด นัดแนะกันเสร็จ รีบแยกย้ายเข้านอน ตอนนี้เกือบสี่ทุ่ม นัดแนะเจอกันตี 1 ครึ่ง 

อากาศเย็น ฟ้าโล่ง ดาวโผล่ ... เสร็จตรูแน่ Killing shot ใบแรกต้องมาแล้ว

ฝันหวานจนสะดุ้งตื่นเมื่อถึงเวลานัดหมาย

แผนที่ + แผนการเดินทาง + ภาพ Reference* สำหรับการเดินทางเข้ามุมถ่ายภาพที่ Hunter Dens, Hunza Valley

(*ภาพประกอบจาก Google image)

มีมี่, แพนด้า, ก๊อป, ต้อม และฮุสเซน รอที่ล็อบบี้ ทุกคนเสื้อกันหนาวจัดเต็ม คืนนี้อากาศเลขตัวเดียว แม้ไม่หนาวมาก แต่หากไปยืนแช่ถ่ายดาว ต่อด้วยแสงเช้า ต่อเนื่อง 4 ชม. คงทรมานมากหากเกราะป้องกันไม่พร้อม อุปกรณ์แต่ละคนพร้อมออกรบ มากกว่าออกไปถ่ายรูป

ฮุนเซนบึ่งรถคู่ใจ Toyota Prada ลัดเลาะไปตามถนนแคบๆ ทุกคนดูครึกครื้น ตื่นเต้นกับคืนถ่ายดาวคืนแรกที่ HunZa valley

15 นาทีต่อมา ตาม Direction ของ Google Map ฮุนเซนเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยแคบๆ ที่ทางไต่ระดับสูงชันขึ้นเรื่อยๆ จากปากซอยถึงจุดที่เรียกว่า Hunters Den น่าจะไม่เกิน 5 กม. เราอุ่นใจกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจอมลุยของ Prado คันนี้มาก หากเป็นรถตู้ที่ใช้ในวันแรกที่ฮุนเซนขับไปรับที่สนามบิน Islamabad เราคงจอดตั้งแต่ปากซอย … ยิ่งขับขึ้นไป ถนนคอนกรีตก็เริ่มเปลี่ยนเป็นถนนหินกรวดที่รถไม่สามารถสวนกันได้ บ้านตั้งอยู่ห่างๆ ในความมืด นาฬิกาบอกตี 1.45 น. โชคดีที่มาตอนดึก ไม่มีรถสวนลงมา แต่รู้สึกหวั่นๆ น่าจะมา Survey ก่อนในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา

ถนนเริ่มกลายสภาพไปสู่ตรอกเล็กๆ ที่ระเกะระกะไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ ซ้ายขวาที่น่าจะเคยเป็นกำแพงหินของชาวบ้านพังทลายเป็นช่วงๆ … ฮุนเซนขับ Prado เคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้า และสุดท้ายก็หยุดลง … งานเข้าแล้วกรู!!

ถนนชำรุด กองหินถมอยู่ครึ่งเลน ยาวออกไปกว่า 30 เมตร … ถ้าเดาไม่ผิด บริเวณนี้คงเกิดแผ่นดินถล่มเมื่อไม่นานมานี้ … มิน่า รอบๆ มีแต่บ้านร้าง … ผม และ ฮุนเซนลงมาจากรถเพื่อเดินสำรวจทาง … สมองบอกให้กลับ ขณะที่ใจไปรอที่จุดถ่ายข้างบนแล้ว … หากจะกลับลงไป เราคงต้องค่อยๆ ถอยรถไหลลงทางแคบไปเรื่อยๆ งานหยาบแน่ๆ … แต่หากจะเดินหน้า ต่อให้เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อคงต้องมีทรุด มีสะเทือนกันบ้าง

ก่อนที่จะตัดสินใจ ฮุนเซนที่ยืนข้างๆ ก็ดับไฟในมือถือ ยัดใส่กระเป๋ากางเกง และเริ่มยกก้อนหินที่อยู่ตรงหน้า 

เป็นคำตอบที่ตรงใจ … เมื่อตั้งใจมาแล้ว ต้องลองลุยกันสักตั้ง … ทุกคนจึงพร้อมใจยกก้อนหินน้อยใหญ่ออกจากถนน เพื่อ Clear ทางให้รถเคลื่อนตัวต่อไปได้ ตรงนี้ต้องขอบคุณฮุนเซน หากจังหวะนั้นเค้าเอ่ยปากให้เรากลับ ผมคงไม่ดื้อแพ่ง และยอมจำนนกับอุปสรรคข้างหน้าแต่โดยดี … จุดนี้ทำให้นึกถึงการแก้ปัญหาในท่ามกลางวิกฤติ ทุกจังหวะเราต้องการผู้นำที่กล้าตัดสินใจโดยประเมินสถานการณ์ต่างๆ เป็นอย่างดี และค่ำคืนนั้น ฮุนเซนคือผู้นำที่สนับสนุนเป้าหมายของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม

ล้อรถ Prado ค่อยๆ หมุนตะกายขึ้นบนกองหิน ขณะที่เราทุกคน ยืนลุ้นบนเนินในสภาพเสื้อผ้ามอมแมม

ครึ่ก ครืดดด ครึ๊ก ครืดดด  ฮืมมมม ฮึ่ม … ทั้งเสียงเครื่องยนต์ เสียงล้อบดหิน เสียงตัวถังครูดกับกองดิน ฝ่าความเงียบอย่างดังเร่งให้ใจเราระทึก … ครึ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฟุ่มมม … รถทะลวงผ่านขึ้นมาจนได้!!!

แม้ในความมืดสนิท ผมยังเห็นยิ้มกว้างของทุกคน และเสียงปรบมือดีใจที่เราฝ่าด่านนี้ไปได้ แต่เมื่อขึ้นรถและขับไปต่ออีกไม่ไกล เราเจอสภาพถนน ทางขาดโดยสิ้นเชิง 

ขณะนี้เวลาตี 2 เราอยู่บนเชิงเขา สูงชันจากเบื้องล่าง และห่างจาก Hunter Dens ราว 4 กม. 

เราต้องทิ้งรถไว้ตรงนั้น เพื่อเดินต่อไปยังจุดถ่ายภาพ … จุดไหนหล่ะ … ไม่รู้เลย รู้แต่ว่าเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ที่มองเห็น HunZa Valley ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และที่ตรงนั้น เราจะสามารถถ่ายทางช้างเผือกคู่กับตัวเมือง HunZa ได้เกือบ 180 องศา


เราเดินไปได้ 10 นาที โดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง ตอนนี้เลยเวลาที่วางแผนไว้แล้ว ทางช้างเผือกที่ควรคร่อมเทือกเขา เคลื่อนตัวแนวเฉียงออกไปทางทิศใต้ … พอพ้นเนินเป็นพื้นที่กว้าง ผมให้เพื่อนๆ เริ่มถ่ายทางช้างเผือก ก่อนเริ่มสำรวจมุมรอบๆ … โชคร้าย จุดที่เราอยู่ยังมีแนวต้นสนบังโดยรอบ แม้จะได้แนวเทือกเขา แต่วิวเมืองเบื้องล่างหายไปครึ่ง 

แม้เราจะทำได้ดีที่สุด คือ การปีนขึ้นไปแท๊งค์น้ำสูง 4 เมตรบนยอดเนิน แต่มันไม่ใกล้เคียงกับภาพ Ref. ที่หาได้ใน Google และฮุนเซนบอกว่า จุดที่เราหามาน่าจะต้องเดินลึกขึ้นไปด้านหน้าอีกอย่างน้อย 15 นาที โดยที่ยังไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงไหน

เมื่อถึงจุดหนึ่งเราต้องยอมแพ้ และทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด ผมตัดสินใจไม่ไปต่อ โดยให้น้องๆ ถ่ายภาพทางช้างเผือกที่จุดเดิม จนเวลาล่วงไปถึงตี 4 พวกเราจึงปีนลงจากแท๊งค์น้ำ แล้วรีบอพยพกลับไปโรงแรมให้ทันถ่ายแสงเช้าตอนตี 5 ครึ่ง 

ฮุนเซน ฮีโร่ประจำทริป ที่คอยดูแล สนับสนุน และอยู่เคียงข้างพวกเราในทุกเส้นทาง

ทีมงานกล้าท้าลุย จำนวน 5 อัตรา … ในที่สุด Hunter Dens ก็ปล่อยเรากลับโรงแรม … ยิ่มร่าน้ำตารินกันถ้วนๆ (พวกกรูมาทำอะไรกันบนนี้ฟร่ะ) :P

จุดถ่ายภาพใกล้ๆ กับ Hunter Dens ที่วางแผนจะขึ้นไปถ่ายภาพ

มุมที่เล็งไว้ต้องเดินไปทางซ้ายมือของภาพอีกประมาณ 4-5 กม. ที่จะได้เวิ้งของ Hunza Valley ที่ไม่มีแนวต้นสนมาบังมุมเมือง

ฮุนเซนบังคับรถ Prado ลงเขาผ่านทางชำรุดที่เราขับฝ่ากองหินขึ้นมาอย่างช้าๆ

“เราผ่านจุดนี้ไปได้ยังไงเนี่ย?” … ฮุนเซนพูดลอยๆ ขณะที่บังคับรถลงไปอย่างยากลำบาก

“ผมไม่คิดว่ามันจะผ่านไปได้ตั้งแต่แรกแล้วหล่ะ แต่เราลุยด้วยกัน และก็ทำได้ใช่ไหม” … ผมยิ้ม และตอบอย่างอารมณ์ดี

ในกล้องถ่ายภาพของทุกคน … ต่างมีภาพดวงดาวรายล้อมขุนเขาแห่ง HunZa Valley

และผมเชื่อว่า ในใจของแต่ละคน คงเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นในมิตรภาพ และการผจญภัยร่วมกันในเช้าวันที่สี่ของ Blossoms in Pakistan 2022


Finally WE MADE IT!


มุมไม่สวยเท่าที่มโน … แต่จิตใจพองโตมากๆ

จนกระทั่ง มาพบว่า … มุมลับใกล้ๆ โรงแรม 

ที่ฟ้า SkyTale พาพวกเราไปในตอนเช้า นั้นสวยอลังการกว่ามากมาย :P


To be continue…

***ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนโดยก๊อป @Kopchai Limpanataywin

Previous
Previous

People of Pakistan : Nikkor 50/1.2

Next
Next

pathway to heaven