Fragile Silence @ Kirkjufell, Iceland
ภาพที่ 1: Final photo รวมภาพฉากหน้า และแสงเหนือเข้าด้วยกัน
หลายคนคงเคยเห็นภาพสุดอลังการของสถานที่ดัง ๆ อย่าง Bromo ที่อินโดนีเซีย, ทะเลสาบ Tekapo ที่นิวซีแลนด์, หรือ Tre Cime ที่อิตาลี แล้วแอบคิดในใจว่า... อยากไปถ่ายรูปที่นั่นสักครั้งในชีวิต แต่พอเห็นบ่อย ๆ เข้า (เพราะยังไม่ได้ไปซักที) ก็เริ่มเบื่อแฮะ เห็นมุมเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา จนรู้สึกว่า เออ ไม่ต้องไปก็ได้มั้ง Kirkjufell ที่ไอซ์แลนด์ ก็รู้สึกแบบเดียวกันเลยครับ เห็นภาพจนตาแทบพรุน แต่ไหนๆ มีโอกาสพาเพื่อนไปถ่ายภาพที่ Iceland ก็แวะสักหน่อย ไม่เอาอ่ะมุมมหาชน สถานที่กว้างๆ เผื่อเดินหามุมสวยๆ ปั้นมุมของเราก็น่าจะพอได้
Kirkjufell หรือที่นักเดินเรือชาวเดนส์เคยเรียกว่า "Sukkertoppen" (ยอดน้ำตาล) เพราะรูปทรงคล้ายขนม ภูเขานี้ตั้งอยู่ในเมือง Grundarfjörður ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ ห่างจาก Reykjavík ราว 185 กิโลเมตร ถือเป็นภูเขาที่โดนถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศ ตอนแรกมองจากฝั่งเมืองก็ยังงง ๆ เพื่อนชี้ให้ดูว่า "นั่นแหละ Kirkjufell" เราก็ยังไม่เก็ท จนขับรถอ้อมไปทางจุดถ่ายภาพชื่อดัง ทรงแหลมเป๊ะเหมือนในภาพถ่ายเลย
รอบนี้ผมตั้งเป้าถ่าย Kirkjufell กับแสงเหนือ แต่ขอเลี่ยงมุมยอดฮิต (เพราะคนเยอะมาก) เลยไปเดินสำรวจช่วงเย็น เจอลำธารเล็ก ๆ ด้านล่าง ใกล้ Kirkjufell Waterfall Viewpoint ห่างจากผู้คนพอสมควร พอเอาเลนส์มุมกว้างประกบกล้อง ลองถ่าย เช็กหลังกล้องแล้ว โอเคเลย มุมใช้ได้! หลังจากได้มุม ก็ขับรถกลับไปกินข้าวที่บ้านพัก เติมพลัง ใส่เสื้อกันหนาวครบชุด แล้ววนกลับมาที่เดิมอีกรอบถึงประมาณทุ่มครึ่ง ฟ้าเปิดโล่ง พยากรณ์ว่า KP2-KP3 พอมีลุ้น! จังหวะนั้นผมรู้สึกหนาวมาก ฟ้ายังไม่มืดสนิทดี ก็รีบประจำตำแหน่ง วางกระเป๋ากล้องริมลำธาร หยิบเฉพาะกล้องและขาตั้งกล้องเดินย้ำลงไปในน้ำ รองเท้าบู้ทกับถุงเท้าหนา 2 ชั้นช่วยได้เยอะ ยืนแช่น้ำ 2 ชั่วโมงกว่าแทบไม่รู้สึกหนาว แค่ขาชา ๆ ก็เดินย่ำขึ้นลงให้เลือดไหลเวียน แล้วก็ลงไปแช่ใหม่
ภาพที่ 2: การวางขาตั้งกล้อง และการยืนถ่ายภาพในลำธารที่ Kirkjufell
ความเย็นจัดทำให้ผิวน้ำกลายเป็นลวดลายน้ำแข็งสวย ๆ ตอนเดินลงไปในน้ำ ผมต้องหย่อนขาลงเบาๆ เพื่อไม่ให้น้ำกระเพื่อมจนเกล็ดน้ำแข็งพัง ผมใช้ขาตั้ง Gitzo รุ่น Explorer ที่พลิกขาออกด้านข้างได้ ตั้งกล้องในระดับต่ำให้ใกล้น้ำแข็งที่สุด ความทุลักทุเลในการกางขาตั้งกล้อง ต้องย่อเข่า ก้มตัวเพื่อปรับกล้อง บางครั้งตัวเซ ทำน้ำกระเพื่อมเกือบทำลาย foreground หลายครั้ง แต่ก็รอด! พอฟ้าเริ่มมืด ยังไม่เห็นแสงเหนือ ก็รีบเก็บ foreground มาก่อน ถ่ายไว้ 2-3 ชุด ด้วยเลนส์ 10 mm., f/2.8, 90 วินาที, ISO 3200 และ manual focus ระยะ 30 cm. ถึง infinity รวม 4 ใบเพื่อเอาไป stack
ภาพที่ 3: ฉากหน้า ถ่ายด้วยเลนส์ Laowa 10 mm. ตั้งค่า f/2.8, 90 วินาที, ISO 3200 และ manual focus ระยะ 30 cm. ถึง infinity
ช่วงใกล้ๆ 3 ทุ่ม ระหว่างรอแสงเหนือ ก็เห็นไฟฉายกับเสียงฝีเท้าของกลุ่มนักถ่ายภาพเดินตรงมา ผมคิดว่าเค้าจะเดินอ้อมไปด้านหลังที่มีทางเดินเรียบทะเลสาบ ส่วนผมอยู่ในน้ำผมรีบเปิดไฟ headlamp เพื่อให้รู้ว่ามีคนถ่ายอยู่ตรงนี้ แต่เสียงเดินกับเสียง crampon กระแทกหินก็ยังดัง แถมเดินตัดตรงมายังฉากหน้าแบบไม่สนใจ ในใจก็งงว่า ทำไมไม่เดินไปด้านหลังซึ่งเดินง่ายกว่า ด้านหน้าผมมีแต่น้ำ ก้อนหิน และแผ่นน้ำแข็ง ... ผมตะโกน "Hey, sorry! I'm taking..." ยังพูดไม่จบ พี่แกเดินเหยียบผ่าน foreground น้ำแข็งของผมไปเฉย ๆ แก๊บ แก๊บ แก๊บ ... ผมหลุด F*u*c*k ออกไปเต็มๆ แขกคงได้ยินผมด่า ก็คงรู้ แต่หันมาว่า "Sorry" แล้วเดินจากไป เหมือนแมร่งมาแกล้งเดินย่ำฉากหน้า ทิ้งรอย crampon ไว้เต็ม Icy foreground เละหมด!! จังหวะนั้นโมโหจริงๆ ... ผมรีบเช็คหลังกล้อง โชคดีที่มีภาพก่อนหน้าที่ถ่ายไว้พอใช้งานได้ ก็ยุบหนอ พองหนอ ปลอบใจตัวเอง ให้ใจเย็นลง แล้วยืนรอแสงเหนือต่อไป
จนเกือบสามทุ่มกว่า แสงเหนือก็เริ่มมา จากกลุ่มหมอกเทา ๆ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแสงเขียวเต้นระบำทั่วฟ้า บางมุมมาเป็นริ้วคลื่น บางมุมเต้นระบำท้าทายช่างภาพ แต่แสงเหนือที่สวยจัดๆ ดันอยู่ทางทิศตะวันออกและใต้ ซึ่งไม่ได้หันเข้าหา Kirkjufell ที่อยู่ทิศเหนือ ... รอไปไม่นาน คิดว่าไม่ถ่ายต้องเงิบแน่นอน ก็ต้องทิ้งมุม คว้าขาตั้งกล้อง ถอดเลนส์ 10 mm. เปลี่ยนเป็น 14 mm. f/1.4 วิ่งขึ้นมาบนเนินข้างลำธาร ปักกล้องได้ ถ่ายรัวเป็นร้อยใบ ตั้งค่ากล้องที่ f/1.4, 2 วินาที, ISO 2500 คืนนั้น แสงเหนือจัดหนัก สวยกว่าตอนถ่ายที่ Vestrahorn อีก คาดว่า KP น่าจะ 4-5 และนี่คือประสบการณ์ที่เปลี่ยนความรู้สึกของผม จากการเบื่อมุมยอดฮิต กลายเป็นความประทับใจสุด ๆ เพราะสิ่งที่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง มันมีความอลังการ สวยงามมากกว่าภาพถ่ายของคนอื่นหลายเท่าตัว!
ภาพที่ 4: ภาพซ้าย - กล้อง Nikon Z 8 + Laowa 10 mm. ที่ใช้ในการถ่ายภาพครั้งนี้; ภาพกลาง - คือขาตั้งกล้อง Gitzo Explorer ที่น้ำแข็งเกาะง้างแทบไม่ออก; ภาพขวา - ความแรงของแสงเหนือในคืนนั้นที่ครอบคลุมทั้ง Iceland แต่มีเฉพาะที่ Kirkjufell ที่ฟ้าเปิดใสๆ ให้เห็นแสงเหนือแบบจุใจ
สุดท้าย การ process ภาพนี้ ผมใช้การ blend focus stack ของฉากหน้าที่ถ่ายด้วยเลนส์ 10 mm. คู่กับภาพแสงเหนือที่ถ่ายด้วยเลนส์ 14 mm. ถึงจะไม่ใช่ one-shot แต่ทุกองค์ประกอบในภาพนี้เกิดจากความตั้งใจ ความพยายาม และมีเรื่องราวที่น่าจดจำ ในที่สุดผมได้ภาพ Kirkjufell ของผมมาแล้ว และหวังว่าสักวัน จะกลับไปซ่อมมุมนี้แน่นอน ... ปีหน้าเจอกัน?
ปล. ต้องขอขอบคุณ Nikon Sales Thailand ที่สนับสนุนกล้อง Nikon Z 8; Zoom Camera ที่สนับสนุนเลนส์ Sigma 14 mm. f/1.4; และ Camera Maker ที่สนับสนุนเลนส์ Laowa 10 mm. f/2.8 ในการไปถ่ายภาพที่ Iceland ในครั้งนี้ครับ